“เกาะหมาก” ชื่อที่นักท่องเที่ยวสายทะเลคงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เกาะที่เป็นดั่งไข่มุกแห่งท้องทะเลฝั่งตะวันออกของประเทศไทย ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของความสวยงามของท้องทะเล น้ำทะเลใสสะอาดและธรรมชาติบนเกาะที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ทำให้ที่นี่เปรียบดั่งเกาะสวรรค์ของใครหลายๆ คน ซึ่งนอกจากความสวยงามของทะเลบนเกาะหมากแล้ว อีกด้านหนึ่งที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยได้เข้าไปสัมผัสก็คือวิถีชีวิตความเป็นอยู่บนเกาะหมาก ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกคนไปเปิดมุมมองใหม่กับการเที่ยวเกาะหมากแบบ 2 วัน 1 คืน เรียกรู้วิถีชีวิตของเกาะหมากผ่านทางกิจกรรมการท่องเที่ยว พักผ่อนในจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะหมาก ชมอันซีนเกาะกระดาดและเกาะขายหัวเราะเส้นทางเชื่อมต่อทางการท่องเที่ยวของเกาะหมาก และสุดท้ายไปลองชิมปลาย่ำสวาท ของดีของทะเลตราด ไปดูกันว่าภายในเวลา 2 วัน 1 คืนนี้เราจะได้พบเจอกับอะไรกันบ้าง
ในช่วงที่เราไปต้องบอกก่อนเลยว่าอากาศไม่ค่อยเป็นใจนัก เป็นช่วงท้ายๆ ของฤดูกาลท่องเที่ยว ที่ยังพอมีแสงแดดอยู่บ้างในบางช่วงของวัน แต่ส่วนมากจะเต็มไปด้วยเมฆฝนเสียมากกว่า แต่ก็นั่นแหละเสน่ห์ของการท่องเที่ยวในแต่ละช่วงนั้นให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไปเสมอ ซึ่งการเดินทางในทริปนี้ก็ทำให้เรารู้ว่าเมื่อถึงเวลาที่ธรรมชาติได้เปิดรับนักเดินทางอย่างเราหลังช่วงเวลาของสายฝนนั้นมันสวยงามมากเพียงใด
เราเริ่มต้นเดินทางไปยังเกาะหมากโดยขึ้นเรือที่บริเวณแหลมงอบ สามารถเช็กรอบเรือได้ที่นี่ เช็กรอบเรือเกาะหมาก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาทีเท่านั้น ก็สามารถพาตัวไปยังเกาะสวรรค์แห่งนี้ได้แล้ว
จุดแรกของการเที่ยวในเกาะหมากนั้นเราไปทำกิจกรรม Work Shop กันที่ Roja Studio Of Art ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ในเรื่องของการทำผ้ามัดย้อม ก่อนหน้านี้หากพูดถึงเกาะหมากใครล่ะจะรู้ว่าที่นี่มีการผลิตผ้ามัดย้อมอยู่ด้วย ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจและดึงดูดให้เราอยากจะมาสัมผัสกับการทำผ้ามัดย้อมที่นี่จริงๆ
โดยที่นี่มีพี่โรจน์ เจ้าของ Roja Studio Of Art เป็นวิทยากรผู้ให้ความรู้กับเราในการทำ Workshop ผ้ามัดย้อมในครั้งนี้ ซึ่งแบ็คกราวด์ของพี่โรจน์เองนั้นเป็นคนนอกเกาะหมากที่หลงใหลในความสวยงามและเงียบสงบของที่นี่ จึงได้พกพาเอาความรู้ด้านงานศิลปะและใจรักในด้านนี้มาเปิดร้านและแหล่งการเรียนรู้ที่เกาะแห่งนี้มาเป็นเวลาเกือบ 20 ปีมาแล้ว ต้องบอกเลยว่าเจ๋งจริงๆ
สำหรับการทำผ้ามัดย้อมที่นี่นั้นก็จะมีการสอนทำลวดลายต่างๆ สอนตั้งแต่ขั้นตอนการรัดผ้าให้เกิดลวดลาย ไปจนถึงการนำผ้าที่มัดลายเรียบร้อยแล้วไปย้อมกับครามจนได้ออกมาเป็นผ้ามัดย้อมสวยๆ ที่มีผืนเดียวในโลก เพราะเป็นการทำจากฝีมือของเราเอง
ถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากในการมาทำ Workshop ที่นี่ ได้เรียนรู้เรื่องราวของผ้ามัดย้อม และการใช้วัสดุจากธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกๆ ด้าน ตอบโจทย์กับแคมเปญเกาะหมาก Low Carbon มากๆ
ติดต่อทำ Workshop : 085 447 4028
จบจากการทำผ้ามัดย้อมเราไปเที่ยวกันต่อที่เกาะหมากฟาร์มออร์แกนิค สถานที่ที่เรียกได้ว่าเป็นครัวกลางของเกาะหมากเลยก็ว่าได้ เพราะที่นี่สร้างผลผลิตทางการเกษตรส่งไปตรงที่รีสอร์ตบนเกาะหมากก่อนจะเสิร์ฟไปถึงจานอาหารของคุณ เพราะฉะนั้นในครั้งนี้เราจะได้เห็นจุดเริ่มต้นของอาหารที่เราได้ทานว่ามีขั้นตอนและการดูแลรักษาเป็นอย่างไร
เราได้รู้จักกับ พี่เล้ง วริศรา อริยวงศ์ปรีชา ผู้ทำหน้าที่ดูแลสวนแห่งนี้ โดยพี่เล้งจะอธิบายและให้ความรู้ในด้านการทำสวนเกษตรแบบออร์แกนิคปลอดสารพิษ ในทุกขั้นตอน ซึ่งพอได้ฟังและเรียนรู้จากพี่เล้งแล้ว ต้องบอกเลยว่าการปลูกต้นไม้ การปลูกผักให้เป็นแบบออร์แกนิค 100% นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ต้องอาศัยศาสตร์หลายๆ แขนงมาใช้ในการทำสวน
นอกจากนี้เรายังได้มีโอกาสทดลองปลูกต้นไม้ด้วยมือตัวเองด้วย เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมน่ารักๆ ที่เราสามารถนำกลับบ้านไปเป็นที่ระลึกได้อีกด้วย ใครที่สนใจจะมาทำกิจกรรมแบบนี้ต้องติดต่อพี่เล้งมาก่อนเพื่อที่พี่เล้งจะได้เตรียมตัวและเตรียมอุปกรณ์
หลังจากได้พูดคุยกับพี่เล้งและเรียนรู้วิธีการทำสวนต่างๆ แล้ว พี่เล้งก็อาษาพาเราเดินชมสวนผักออร์แกนิค ที่ถูกจัดสรรปันส่วนอย่างเป็นระบบ และดูสะอาดปลอดภัย บรรยากาศโดยรอบสวนนั้นร่มรื่นมาก สูดหายใจได้เต็มปลอดรับโอโซนบริสุทธิ์อย่างเต็มที่ เป็นอีกหนึ่งมุมของเกาะหมากที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชมจริงๆ
ติดต่อทำกิจกรรมในเกาะหมากฟาร์มออร์แกนิค : 081 901 9972
จุดสุดท้ายของวันนี้ก่อนที่จะเข้าพักผ่อนเราจะพาทุกคนไปชมพระอาทิตย์ตกกันที่ริมชายหาดอ่าวใหญ่ ถึงแม้จะอยู่ในช่วงที่ฝนตกบ่อย แต่ไม่เป็นอุปสรรค เพราะเรายังคงได้เห็นแสงสีทองบนเกาะหมากอย่างเด่นชัด ทะเลนิ่งสงบถูกฉาบไปด้วยแสงอาทิตย์ เป็นบรรยากาศที่เงียบสงบและงดงาม เป็นโชว์ปิดท้ายวันของธรรมชาติอย่างสมบูรณ์
หลังจากชมพระอาทิตย์ตกกันแล้วเรากลับเข้าที่พักซึ่งในทริปนี้เราเลือกพักที่ Islanda Resort เกาะหมาก รีสอร์ตแห่งนี้จะบอกว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะหมากก็ว่าได้ ที่นี่มีสระว่ายน้ำแบบ Infinity Pool ที่มองเห็นวิวเกาะขาม และทะเลตราดแบบพาโนรามาเลย วิวสวยมากๆ เหมาะแก่การมาพักผ่อน
ห้องพักก็สะดวกสบายเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เป็นหนึ่งในที่พักของเกาะหมากที่เราอยากจะแนะนำหากใครได้มีโอกาสมาเที่ยวครับ
ติดต่อห้องพัก : 088 782 5223
หลังจากเก็บของพักผ่อนกันแล้วก็ได้เวลาไฮไลท์ของเรานั่นก็คือมื้อเย็นที่เราเฝ้ารอคอยนั่นเอง เพราะในวันนี้เราจะได้กินซาซิมิปลาย่ำสวาท ปลาพื้นถิ่นของจังหวัดตราดที่หาทานที่อื่นไม่ได้
เราไปกินมื้อเย็นกันที่ร้านเกาะหมากซีฟู้ด ร้านอาหารซีฟู้ดพื้นบ้านชื่อดังของที่นี่ โดยเมนูเด็ดที่ทุกคนเฝ้ารอคอยนั่นก็คือซาซิมิปลาย่ำวสวาทที่เรากล่าวไปข้างต้น จริงๆ แล้วปลาย่ำสวาทนั้นถ้าให้เดาเราคิดว่าน่าจะเป็นปลาตระกูลเดียวกับปลาเก๋าแต่มีลักษณะที่แตกต่างกว่าเพราะมีลายจุดสีน้ำเงิน รสชาติเนื้อปลามีความหวาน และมีรสสัมผัสที่ กรอบ เด้ง และสดไม่มีกลิ่นคาว ทานคู่กับน้ำจิ้มโชยุ วาซาบิ และน้ำจิ้มซีฟู้ด ที่ทางร้านเสิร์ฟมาให้เลือกทั้ง 3 แบบ บอกเลยว่าฟิน! เป็นเมนูพื้นถิ่นที่สามารถดันไปได้ไกลระดับประเทศเลยก็ว่าได้
ส่วนเมนูอื่นๆ ของทางร้านนั้นก็มีให้เลือกทานอีกมากมาย ทั้งหมึกนึ่งมะนาว ปูผัดผงกะหรี่ หมึกไข่ย่างเป็นต้น ซึ่งความโดดเด่นของร้านนี้นอกจากรสชาติอาหารที่อร่อยแล้ว ก็คือความสดสะอาดของวัตถุดิบ ที่ทานเข้าไปแล้วรู้เลยว่าวัตถุดิบสดมากจริงๆ เป็นร้านแนะนำที่หากคุณมาเที่ยวเกาะหมากแล้วควรมาลอง
ติดต่อร้านเกาะหมากซีฟู้ด : 090 976 4031
เช้าวันต่อมาก่อนที่จะเดินทางกลับ เรารีบตื่นกันแต่เช้าตรู่เพื่อเดินทางไปเที่ยวกันที่เกาะกระดาดและเกาะขายหัวเราะ ซึ่งทั้ง 2 เกาะนี้ เป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมต่อกับเกาะหมาก สามารถไปเที่ยวได้แบบ Half day trip ใช้เวลาเดินทางไม่นานจากเกาะหมากนั่งเรือประมาณ 10 นาทีเท่านั้น
บนเกาะกระดาดนั้นหากมองจากมุมสูงจะมีลักษณะแบนราบไปทั่วทั้งเกาะ คนทั่วไปจึงมักเข้าใจว่าที่มาของชื่อเกาะกระดาดมาจากความแบนราบนี้ แต่แท้จริงแล้วที่มาของชื่อเกาะกระดาดเป็นเพราะแต่ก่อนมีต้นกระดาดอยู่เยอะนั่นเอง แต่ตอนนี้บนเกาะได้เปลี่ยนแปลงกลายเป็นสวนมะพร้าวไปหมดแล้ว
และไม่น่าเชื่อเมื่อเราเดินทางมาถึงเกาะกระดาดแล้ว ฟ้าที่เคยขุ่นมัวและเต็มไปด้วยเมฆฝนก็กลับกลายเปลี่ยนเป็นฟ้าที่สดใส ราวกับการเปิดม่านต้อนรับนักท่องเที่ยวแบบเราให้ได้ชมความงามของธรรมชาติอย่างเต็มที่
เรานั่งรถเที่ยวกันบนเกาะกระดาด ชมฝูงกวางที่อาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้มาอย่างยาวนานจนถูกเรียกว่าเป็นซาฟารีกลางทะเล และไปชมต้นมะพร้าวเอนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นมุมถ่ายรูปห้ามพลาดของเกาะกระดาดแห่งนี้
ด้านหลังเกาะกระดาดนั้นจะมีทะเลแหวระหว่าง 2 เกาะ คือเกาะนกใน และเกาะนกนอก ในช่วงที่น้ำลงเราสามารถเดินผ่านสันทรายไปได้เลยอันซีนมากๆ หลายคนอาจจะยังไม่รู้มาก่อนว่าที่ทะเลตราดนี้มีทะเลแหวกด้วย
เมื่อทะเลจากทะเลแหวกของสองเกาะมาแล้วจุดหมายสุดท้ายของเส้นทางนี้ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเรา นั่นก็คือเกาะขายหัวเราะนั่นเอง เกาะขายหัวเราะนี้คืออันซีนแห่งใหม่ที่ทางททท. และบริษัทหนังสือบรรลือสาร ร่วมมือกันผลักด้นให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนแห่งใหม่ของจังหวัดตราด หากคุณเคยมีโอกาสอ่านการ์ตูนขายหัวเราะในตอนเด็กๆ จะต้องคุ้นตากับเกาะร้างที่มีต้นไม้อยู่ต้นเดียวบนเกาะซึ่งมักจะกลายเป็นมุกตลกในหนังสือการ์ตูน
แต่ในตอนนี้เกาะขายหัวเราะได้เกิดขึ้นจริงที่จังหวัดตราด เกาะที่มีขนาดเล็กมากๆ คนสามารถขึ้นไปยืนได้ 2-3 คน และมีต้นไม้อยู่บนเกาะหนึ่งต้น ตรงตามในการ์ตูนขายหัวเราะเป๊ะๆ เป็นมุมถ่ายรูปที่ดูแปลกตาและสร้างความประทับใจให้กับแฟนการ์ตูนขายหัวเราะแบบเรามากๆ ที่ได้มาเห็นเกาะขายหัวเราะในชีวิตจริงแบบนี้
หากใครมีแพลนมาเที่ยวเกาะหมากแล้วมีเวลาอยากให้ลองข้ามาเที่ยวฝั่งเกาะกระดาดและเกาะขายหัวเราะกันดูครับ ที่นี่มีทั้งเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ลักษณะทางภูมิประเทศที่ดูแปลกตา ความหลากหลายทางด้านสภาพแวดล้อม สมกับคำว่าอันซีนอย่างแท้จริง
ติดต่อเรือนำเที่ยวเกาะกระดาด : 08-9099-7917
กลับจากเกาะกระดาดก็ได้เวลาโบกมือลาเกาะหมากของเราในทริปนี้ สำหรับระยะเวลาเพียง 2 วัน 1 คืนนั้น อาจจะดูน้อยไปสักนิดที่จะได้สำรวจเกาะหมากให้ทั่ว แต่สำหรับเรา การได้ไปลองสัมผัสกับมุมมองใหม่ๆ ของเกาะหมาก การได้รับรู้เรื่องราว และเรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ รวมไปถึงได้สัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวอันซีนแห่งใหม่ เป็นอะไรที่น่าประทับใจ เป็น 2 วัน 1 คืนที่เราได้บันทึกทุกความทรงจำลงในหนังสือแห่งการเดินทาง และบอกลาจากเกาะแห่งนี้ไปด้วยสีหน้าที่เปื้อนด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : 039 597 259 (ททท.สำนักงานตราด)
ดูเนื้อหาต้นฉบับ
ที่มา : https://www.sanook.com/travel/1432597/
ขอขอบคุณ : https://www.sanook.com/travel/1432597/