อยากหาของกินอร่อย ไหว้พระทำบุญให้อิ่มใจ ตบท้ายด้วยแวะเที่ยวคาเฟ่สวย หามุมถ่ายภาพในแบบไม่ไกลจากกรุงเทพ รีบตื่นแต่เช้าแต่งตัวขับรถคู่ใจไปยังฉะเชิงเทรา หรือ เมือง แปดริ้ว อย่างรวดเร็ว อีกอย่างไม่ได้แวะเวียนไปจังหวัดนี้มานานหลายปี ถึงคราวที่ต้องไปอัพเดทสักหน่อย แปดริ้ว มีจุดแวะเที่ยวที่ยังไม่ได้ไปอีกเยอะ สถานที่บางแห่งไปมานานก็มีการปรับปรุงให้น่าเที่ยวมากยิ่งขึ้น
ตลาดคลองสวน
เริ่มกันที่จุดหมายแรก ต้องอิ่มท้องก่อน แวะเดินเที่ยวตลาดพร้อมกับหาอะไรทานด้วย ตลาดคลองสวน ตลาดเก่าแก่ขึ้นชื่อของแปดริ้ว มีการปรับปรุงใหม่จากเดิมให้น่าสนใจขึ้น หากใครอยากชมบรรยากาศของวิถีชีวิตแบบย้อนยุค ชมของเก่าและสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า พร้อมไปกับการชิมอาหารอร่อยทั้งอาหารคาวที่มีสูตรเฉพาะ ต้องมาให้ได้ ภายในบริเวณตลาดมีที่จอดรถสะดวกสบาย สามารถจอดด้านหน้าและเดินไม่กี่ก้าวก็ถึงตลาด มาถึงทางเข้าจะพบกับภาพวาดสามมิติแสนน่ารัก ที่จำลองบรรยากาศของตลาดในอดีต และ set ข้าวของให้เข้ากับภาพเพื่อให้นักท่องเที่ยวอย่างเราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของภาพได้อย่างแนบเนียน ทั้งภาพร้านกาแฟโบราณที้จัดเป็นเก้าอี้ให้นั่ง เด็กน้อยโผล่มาจากหน้าต่างเป็นเก้าอี้แบบยาว และภาพสะพานข้ามคลองก็มีเรือไว้ให้พาย เข้ากับบรรยากาศความเก่าของตลาดมาก
ระหว่างทางเดินเข้าไปจะพบกับภาพถ่ายพร้อมประวัติความเป็นมาของตลาดคลองสวน รวมทั้งภาพร้านค้าและบุคคลสำคัญ
ในอดีต ตลาดคลองสวน เป็นจุดแวะพักและเป็นศูนย์รวมของชุมชน จุดแลกเปลี่ยนสินค้าเป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญและสะดวกที่สุด ในปัจจุบันได้สนับสนุนให้ชุมชนร่วมกันอนุรักษ์บ้านเรือน รวมทั้งการดำเนินชีวิตให้คงไว้ซึ่งวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย และส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรม นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเรียนรู้ ชมวิถีชีวิต รวมทั้งบ้านเรือนที่ยังมีกลิ่นอายแบบอดีต อบอวลด้วยมนต์เสน่ห์แห่งการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่ยังสัมผัสได้จริง ทั้งคนท้องถิ่นที่ยังนิยมมาจับจ่ายใช้สอย เลือกซื้อสินค้าในชีวิตประจำวัน และนักท่องเที่ยวที่มาเดินช้อป นั่งชิมอาหารอร่อย
ตลาดตั้งอยู่ริมคลอง มีทั้งร้านค้าขายของกินให้เลือกละลานตา รวมทั้งร้านโชห่วย หรือ ร้านค้าขายปลีกขนาดเล็ก ที่มีมากมายหลายร้าน ขายทั้งข้าวของเครื่องใช้ ของเล่น ร้านขายยา ร้านทอง ที่คนรุ่นใหม่อาจจะไม่ค่อยได้เห็นนัก เดินชมตลาดหาของกิน ไปพร้อมไปกับมนต์เสน่ห์ของรอยยิ้ม มิตรไมตรีจากชาวบ้านในตลาด
หลายคนอาจติดภาพหรือรู้จักตลาดคลองสวน ว่าเป็นตลาดโบราณและโฟกัสไปที่บรรยากาศมากกว่า แต่แท้จริงแล้วที่นี่เป็นแหล่งรวมของอร่อยมากมายทั้งคาว หวาน โดยเฉพาะเมนูโบราณที่หาทานได้ยาก ให้เลือกซื้อ เลือกชิมกันตลอดทาง ทั้งร้านกาแฟโบราณ เป็ดพะโล้ ร้านขายหอยจ๊อ ขนมหวาน และขนมโบราณต่างๆ แถมจัดที่นั่งสำหรับทานอาหารเป็นสัดส่วน ให้นั่งทานกันแบบสะดวกสบาย
มาเริ่มกันที่ร้านแรก ต้องเรียกว่าเป็นตำนานของตลาดคลองสวน กลายเป็นภาพที่อยู่คู่กับตลาดนี้มาช้านาน ร้านกาแฟโบราณเป๊ะหลี เจ้าของร้าน คือ แป๊ะหลี บุคคลสำคัญของตลาดคลองสวน สมัยก่อนใครได้มาเที่ยวต้องไม่พลาดที่หาโอกาส แวะไปถ่ายรูปกับเป๊ะหลี ถึงแม้ปัจจุบันท่านจะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ตำนานยังคงอยู่และไม่ได้จางหายไป หน้าร้านยังมีรูปท่านให้ไปยืนถ่ายภาพคู่ด้วยเหมือนเคย
ร้านกาแฟเป๊ะหลีเป็นตึกแถวปูนผสมไม้ ห้องเล็กห้องเดียว ข้างกำแพงมีประวัติและรูปที่ถ่ายกับบุคคลสำคัญต่างๆ โต๊ะกาแฟเป็นโต๊ะกลมแบบโบราณ ส่วนกาแฟ ชา ร้านแป๊ะหลี ยังรสชาติดี เหมือนสมัยที่แป๊ะเคยชง ซื้อแล้วก็มานั่งเล่นภายในร้านได้บรรยกาศเก่าๆ ไปอีก
ก๋วยเตี๋ยวเป็ดร้านเจ๊เจ็ง ตั้งอยู่เกือบท้ายตลาดในฝั่งอำเภอบางบ่อ สมุทรปราการ บริเวณเชิงบันไดสะพานไม้ เป็นร้านเด็ดเก่าแก่ขึ้นชื่อ ติดริมคลอง ลมพัดเย็นสบาย เมนูของร้าน มีทั้งก๋วยเตี๋ยวเป็ด ข้าวหน้าเป็ด เนื้อเป็ดล้วน เครืองใน หอยจ้อ ความเด็ดของร้านนี้ คือ เนื้อเป็ดที่นุ่มอร่อย รวมทั้งเครื่องในต่างๆ ไม่มีกลิ่นคาวโดยเฉพาะตับเป็ดอร่อยมาก ส่วนไส้เป็ดจะเหนียวเคี้ยวยากไปนิดนึง ส่วนอีกหนึ่งเมนูแนะนำ คือ หอยจ้อ อร่อยมาก กรอบนอกนุ่มใน
ลุงชาติกุ้งเผา ตรงข้ามกับร้านแป๊ะหลี กุ้งแม่น้ำเผาเตาถ่าน ที่มีให้เลือก 2 ขนาด ขนาดเล็กกิโลละ 390 และขนาดใหญ่ 490 บาท เราสั่งแบบ 490 ประมาณ 8 ตัว กุ้งสดเนื้อเด้งแต่อาจจะไม่หวานมาก ร้านนี้หักแค่คะแนนน้ำจิ้มที่ไม่ได้ใช้มะนาวแท้ ตอนทานจะได้กลิ่นขึ้นจมูกนิดนึง
ภาวิดา เบอเกอรี่ อีกหนึ่งตำนานความอร่อยที่ขึ้นชื่อ ขายขนมเบอเกอรี่มีหลายหน้าให้เลือก ทั้งขนมเนยสด เค้กฝอยทอง มะพร้าว สารภาพว่าเห็นร้านและหน้าตาขนมตอนแรก คือ เฉยมากเหมือนขนมทั่วไปที่เราเห็น แต่พอหยิบขนมปังเนยสดมาลองทาน สุดบรรยายอร่อยมาก กอไก่ล้านตัว เนื้อขนมปังนุ่มหอมเนยสดสุดๆ ทานแล้วฟินไม่เหมือนที่อื่นที่เคยทาน แถมราคาไม่แพง 3 กล่อง 100 บาท คละขนมได้ด้วย เป็นร้านแรกที่ทำให้คนไม่ค่อยซื้อขนมกลับบ้าน หรือชอบทานขนมอย่างเรา สามารถซื้อกลับมาได้ อร่อยแค่ไหน ต้องมาลองด้วยตัวเอง
ตลาดคลองสวน เน้นไปที่อาหารและขนมโบราณ ทั้งหมี่กรอบร้านดังที่ทอดมากรอบ รสชาติดี ขนมหัวไชเท้า อร่อยอีกเช่นเคย กุ๋ยช่ายเนื้อบาง ขนมกล้วย คือ อร่อยทุกอย่าง เป็นตลาดแรกที่มาเดินหาของกิน แล้วรู้สึกใช้คำว่าอร่อยได้เปลืองมาก ชิมร้านนไหนก็พูดตลอดทาง ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วย
ร้านขนมเปี๊ยะรตนพร อีกหนึ่งร้านเก่าแก่ ที่ขายขนมไทยหลายอย่าง แต่ที่ขึ้นชื่อ คือ ขนมเปี๊ยะ ที่มีทั้งแบบโบราณและแบบสมัยใหม่ อร่อยเช่นกันค่ะ ร้านนี้แป้งเนื้อนุ่ม ไส้ข้างในมาอย่างแน่น และก็ไม่พ้น ซื้อกลับบ้านอีกเช่นเคย
ไข่เค็มตลาดคลองสวน อีกสิ่งหนึ่งที่แนะนำว่าต้องซื้อกลับบ้าน เป็นไข่เค็มพอกดินสูตรโบราณ แทบไม่มีกลิ่นคาว เนื้อไข่ขาวนุ่มมาก ไข่แดงดี รสชาติไม่เค็มจนเกินไป เป็นไข่เค็มที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา
หอยจ้อ ของกินขึ้นชื่อแห่งตลาดคลองสวน มีขายหลายร้านมาก เลือกซื้อได้ตามใจ เนื้อปูล้วนๆค่ะ ทานแล้วฟินมาก กรอบนอกนุ่มใน
กุนเชียง เจ้าดั้งเดิม สูตรหมูล้วน ที่ขายมาช้านนาน ต้องซื้อกลับบ้านค่ะร้านนี้
ร้านขายแกงโบราณ ทั้งแกงขี้เหล็ก หลนปูเค็ม มีแกงส้มมะรุม ขายด้วย หั่นมาอย่างดีพร้อมทาน ซื้อกลับมาทานที่บ้าน รสชาติอร่อยมาก คนชอบทานอาหารโบราณแบบเรากดไลท์ให้ร้านนี้ ครั้งหน้าจะจัดมาทุกอย่างที่ขายในร้าน
บุหลันดั้นเมฆ ขนมโบราณหาทานยาก และขึ้นชื่อของตลาดนี้ ปกติไม่ชอบทานขนมไทยเท่าไหร่ แต่พอได้ทาน บุหลันดั้นเมฆ เช่นเคยค่ะ ซื้อกลับบ้านอีกแล้ว รวมทั้งขนมต้มด้วย ดีมาก หอมมะพร้าว หวานน้ำตาบปี๊บ ขนมที่ตลาดคลองสวน ทานแล้วรู้สึกว่าไม่หวานกมากจนเกินไป มีความหอม รสชาติละมุนทุกร้าน
ชิม ช้อป กันจนพอใจแล้ว ต้องมาเดินแชะเพื่อให้อาหารที่ทานไปทั้งหมดย่อยสักหน่อย บ้านหลังนี้ เสมือนพิพิธภัณฑ์ที่เล่าเรื่องตลาดคลองสวน รวบรวมข้าว เครื่องใช้ ของโบราณ แต่ละมุม ถ่ายภาพได้ฟีลวินเทจมาก บ้านหลังนี้อยู่ตรงข้ามกับร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดเจ๊เจ็ง
นอกจากได้มาสัมผัสเสน่ห์ของความเก่าแก่ และบรรยากาศโบราณ สำหรับเรา ตลาดคลองสวน คือ the best ของความอร่อยของตลาดโบราณทั้งหมดที่เคยไปเที่ยวมา รับรองได้มีซื้อของติดไม้ติดมือ กลับบ้านกันแบบเต็มๆแน่อน ซึ่งร้านขายอาหารคาวในตลาดคลองสวนยังมีอีกหลายร้าน ทั้งก๋วยเตี๋ยว ต้มยำโบราณ ส้มตำ แต่ทานไม่ไหวจริงๆ ของคาวจัดไปแค่ 2 ร้าน คือ ก๋วยเตี๋ยวเป็ดกับกุ้งเผา และขนมที่ซื้อมานั่งทาน ท้องก็แน่นแล้วค่ะ ที่เหลือ คือ ซื้อกลับมาทานบ้านหมด การมาเที่ยว ตลาดคลองสวน ครั้งนี้ ต่างไปจาก ตอนไปครั้งแรกที่เน้นไปถ่ายภาพแนว life ไปครั้งนี้ไปแบบนักท่องเที่ยว เลยได้กินแหลก ช้อปกระจาย เพิ่งจะได้เข้าถึงแก่นของตลาดก็ครั้งนี้ ตลาดคลองสวนเปิดทุกวัน แต่วันธรรมดาร้านค้าริมทางส่วนใหญ่จะปิด จะมีของขายเยอะในวันเสาร์ อาทิตย์
วัดบางปรงธรรมโชติการาม
อิ่มท้องก็ต่อด้วยแวะทำบุญให้อิ่มใจ ที่ วัดบางปรงธรรมโชติการาม วัดสวยบรรยากาศสงบใน อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก แต่ภายในวัดมีความงดงามของมหาเจดีย์ศรีพุทธวรญาณ ขนาดใหญ่ตั้งโดดเด่นกลางวัด ทำให้วัดบางปรงแลดูสวยงามสะดุดตาแก่ผู้ผ่านมาพบเห็น ภายในพระมหาเจดีย์มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมสายให้กราบไหว้ รวมทั้งวิหารหลวงพ่ออู่ทองพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่ามาขอพรสิ่งใด ก็ได้สมปรารถนากันไปหลายคน ถึงแม้ชื่อสิ่งของหลวงพ่ออู่ทองจะเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ชาวบ้านรอบวัด
พระมหาเจดีย์ศรีพุทธวรญาณเป็นเจดีย์องค์ใหญ่ มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นที่ 1 คือ ศูนย์รวมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อาทิ พระราหู พระพิฆเณศวร เจ้าแม่กวนอิม เรียกได้ว่ามีครบแทบทุกอย่าง
ช่องเสาที่มีลวดลายลงรักปิดทองที่งดงาม โดยจัดทำเป็นซุ้มราหูแก้ปีชง สำหรับเดินลอด
ส่วนชั้น 2 มีหุ่นขี้ผึ้งพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจากทั่วประเทศไทยประมาณเกือบร้อยองค์ ทั้ง หลวงพ่อโต หลวงปู่ทวด หลวงพ่อคูณ พ่อท่านคล้าย รวมทั้งรูปปั้นขององค์พระเจ้าทันใจ ภาพ 3 มิติ รูปหลวงพ่อโสธร ให้ได้นั่งถ่ายภาพ
ห้องกลางชั้นที่สองเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป 3 พี่น้อง ตามตำนานเล่าต่อกันมาว่า พระพุทธรูปทั้งสามองค์นี้ได้ลอยน้ำ มาขึ้นยังท่าน้ำวัดต่างๆ กัน คือหลวงพ่อโสธร หลวงพ่อโตวัดบางพลีใหญ่ใน และหลวงพ่อวัดบ้านแหลม
ด้านบนสุดของอาคารมีพระสารีริกธาตุให้สักการะรวมถึงพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ทั้งหลวงพ่อทันใจ และพระแก้วมรกต
วัดบางปรงธรรมโชติการาม เป็นวัดใหญ่ สะอาด สงบผู้คนไม่พลุกพล่าน รู้สึกเย็นและสบายใจเมื่อมาที่วัดนี้
วัดชมโพธาราม
สายบุญยังไม่จบมาต่อกันที่ วัดชมโพธาราม วัดที่เงียบสงบมองเห็นมาแต่ไกลเมื่ออยู่ในตัวเมืองแปดริ้ว มีความโดดเด่นขององค์เจดีย์พุทธคยาจำลองที่สูงสง่าสวยงาม นอกจากนี้ยังมีการจำลองสังเวชนียสถาน 4 ตำบล มีสถานที่ประสูติสวนลุมพินีวัน วิหารพุทธคยาที่ตรัสรู้ ที่ธัมเมขสถูปแสดงปฐมเทศนาธรรมจักร และก็ที่ดับขันธปรินิพพาน ไว้ภายในบริเวณวัดอีกด้วย สามารถมากกราบพระธาตุจำลองประจำปีเกิดปีมะเส็งไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงเชียงใหม่และอินเดีย
วัดประศาสน์โสภณ
จบเรื่องทำบุญกันที่ วัดประศาสน์โสภณ เป็นอีกหนึ่งวัดที่น่าสนใจ ภายในวัด มีพระพุทธรูปองค์จำลองหลวงพ่อโสธรองค์ใหญ่ที่สุดในโลกงามสง่าหันหน้าไปทางแม่น้ำบางปะกง วัดประศาสน์โสภณ มีชื่อเดิมว่า “วัดบางกรูดวิสุทธาราม” แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า “วัดบางกรูด” ตำบลท่าพลับ อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ปูชนียวัตถุที่สำคัญ คือ พระพุทธรูปปางมารวิชัย ซึ่งประดิษฐานอยู่ในอุโบสถ พระพุทธเกตอุดมปางสมาธิ ประดิษฐานในวิหารแปดชั้น พระพุทธไศยาสน์ ประดิษฐานในวิหารคด และมีจุดชมบรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำบางปะกงที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ สะอาด มีโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม
River Breeze
ปิดทริปในเวลาบ่ายแก่ๆ ที่ River Breeze คาเฟ่นั่งชิลวิวหลักล้าน หากใครอยากออกเดินทางไปรับสายลมตะวันออก สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน สูดอากาศบริสุทธิ์พร้อมชมวิวแม่น้ำแบบ 360 องศา คงต้องแวะเวียนมา เพราะเบื้องหลังบ้านริมน้ำเก่าอายุ 60 ปีแห่งนี้ เต็มไปด้วยจุดถ่ายรูปที่พร้อมให้คุณเก็บเกี่ยวความประทับใจมากมาย โดยเฉพาะมุมชมวิวแม่น้ำบางปะกงแบบพาโนรามา รวมทั้งบริการอาหารที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน สมกับเป็นอีกหนึ่งแลนมาร์คที่หากใครไปเที่ยวฉะเชิงเทราต้องลิสต์ไว้
การเดินทางมาค่อนข้างง่าย เพราะร้านตั้งอยู่ใกล้วัดสมานรัตนาราม ซึ่งอยู่ท่ามกลางชุมชนบ้านเก่าของชาวแปดริ้ว เมื่อมาถึงหน้าร้าน จะพบกับคาเฟ่สีขาวหลังเล็กกะทัดรัด เน้นตกแต่งคุมโทนสีสบายตา ผสมผสานความร่วมสมัยและความพื้นถิ่นเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว จุดเด่น คือไม้พายหลากสีที่ตั้งเรียงรายโดดเด่นสะดุดตา ตัดกับสวนเขียวและหมู่แมกไม้ขจี สื่อสะท้อนวิถีชีวิตริมน้ำของชาวบ้านแถบนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายรูปที่ต้องถ่ายเก็บเอาไว้มุมแรกเมื่อมาถึง
ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นโซนนั่งภายในสวน โดยทางร้านเลือกตกแต่งด้วยสิ่งของโทนสีขาว-ฟ้า เข้ากับต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงา ช่วยให้บรรยากาศร่มรื่น รวมทั้งเสริมความรู้สึกผ่อนคลาย สบาย และเย็นตาให้กับลูกค้าที่มานั่งเล่น นั่งรับประทานอาหารภายในร้านด้วย
นอกจากนี้ ยังมีโซนติดริมน้ำให้บริการ เหมาะสำหรับนั่งชิล พักผ่อนท่ามกลางสายลมธรรมชาติ จุดไฮไลท์ ของร้านอยู่ตรง “ระเบียงกลม” ที่ยื่นออกไปตรงริมแม่น้ำ นอกจากจะเป็นมุมทองสำหรับถ่ายรูปแล้ว คุณจะได้ชมวิวพาโนรามาของแม่น้ำบางปะกงอย่างเต็มอิ่ม มองเรือของชาวบ้านที่ผ่านไปมา เรียกได้ว่าสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านกันต็มรูปแบบ
อาหารของร้านจะเป็นสไตล์โฮมเมดไม่ใส่ผงชูรส เน้นเป็นอาหารจานเดียวแบบฟิวชั่น และอาหารทานเล่น โดยเมนูที่สั่งมา คือข้าวอัญชันกุ้งแม่น้ำเผาและสลัดแซลมอน ถือเป็นเมนูเบา ๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากกินจานหลักแบบรักสุขภาพและไม่หนักท้องเกินไป ส่วนใครที่ชอบของทอด แนะนำว่าต้องสั่งเฟรนช์ฟรายและหมูทอดพริกเกลือ ซึ่งเป็นเมนูกินเล่นของทางร้านมาลองกินให้ได้ รับรองว่าเพลินปากแน่นอน
ที่สำคัญ River Breeze ยังมี Bed and Breakfast บริการที่พักเป็นมิตรต่อกระเป๋าตังค์ด้วย หากใครมองหาที่พักค้างคืนเมื่อมาเที่ยวฉะเชิงเทรา ลองสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมไว้ได้ หรือหากใครมีโอกาสผ่านมาเที่ยวเมืองแปดริ้ว ก็แวะมาพักผ่อนที่นี่กันก่อน รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน
River breeze ฉะเชิงเทรา
พิกัด: 64 หมู่ 1 ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง ฉะเชิงเทรา 24000
เปิดให้บริการ: 10.00 น. – 19.00 น. (ปิดทุกวันพุธ)
Facebook River Breeze Cafe
Tags : เที่ยวฉะเชิงเทรา, เที่ยววัดแปดริ้ว, เที่ยวแปดริ้ว, เที่ยวแปดริ้ว1วัน
ดูเนื้อหาต้นฉบับ
ที่มา : https://www.paiduaykan.com/travel/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%A71%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99
ขอขอบคุณ : https://www.paiduaykan.com/travel/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%A71%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99