เดินทางมาถึงโปรแกรมสุดท้ายของ “HIDDEN TEMPLE” กันแล้ว ซึ่งครั้งนี้จะพาทุกคนไปท่องวัด (ลับ) ย่านบางยี่ขัน ฝั่งธนบุรี ภายใต้แนวคิด “ขอบเขตนิมิตร เส้นแบ่งอันศักดิ์สิทธิ์ระหว่างมนุษย์และพุทธธรรม” ณ วัดพระยาศิคิไอยศวรรค์และวัดสวนสวรรค์ ผ่านการจัดแสดงแสง สี เสียง ด้วย Projection Mapping ที่เนรมิตคุณค่าสถาปัตยกรรมในอดีต ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง พร้อมกิจกรรมดนตรีและการแสดง Music and Performance ของเยาวชนและนักดนตรีชั้นยอด เพื่อช่วยขับกล่อมบรรยากาศ และสะท้อนถึงวิถีชีวิตที่มีความหลากหลายของชาตพันธุ์ในย่านบางยี่ขัน ระหว่างวันที่ 17 – 25 ธันวาคม 2565 นี้
วันที่ 17 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ได้ร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), กรุงเทพมหานคร, สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB Urban Ally, ศูนยข้อมูลสถาปัตยกรรมไทย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และภาคีเครือข่ายชุมชนในพื้นที่ ขับเคลื่อนโปรแกรมชวนท่องเที่ยวภายใต้เทศกาล “UNFOLDING BANGKOK” ในธีม “HIDDEN TEMPLE” ท่องวัด (ลับ) ย่านบางยี่ขัน ซึ่งถือเป็นช่วงท้ายของโปรแกรมวัดลับที่ไม่ควรพลาด โดยครั้งนี้มีการจัดกิจกรรม ณ วัดสวนสวรรค์และวัดพระยาศิริไอยสวรรค์ โดยศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการ กทม. ผศ.ดร.สิงหนาท แสงสีหนาท ผู้อำนวยการศูนย์ Urban Ally และคณะผู้บริหาร CEA ได้ร่วมเปิดงานและสัมผัสวิถัีในเส้นทางแห่งพุทธในครั้งนี้
จุดแรกของการจัดแสดงตั้งอยู่ในวัดพระยาศิริไอยสวรรค์ บางยี่ขัน มีการจัดแสดง The Divine Journey: อาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกลืม เป็นการเล่าเรื่องราวแห่งความหมายของพุทธศาสนา การสื่อสารเชิงสัญลักษณ์อาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ และการถ่ายทอดภาษาทางสถาปัตยกรรมจากสมัยอยุธยาที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในวัด พร้อมกันนั้น ยังมีกิจกรรมเรียนรู้ความหมายของรูปแบบอาการ “ตกท้องช้าง” หรือภาษาช่างเรียกว่า “แอ่นท้องสำเภา” ด้วยรูปแบบ Interactive Lighting and Projection Mapping
ภายในวัดพระยาศิริไอยสวรรค์ยังมีการจัด Music and Performance บางยี่ขัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Melting-Pot Community: ความทรงจำและหลากหลายของชาติพันธุ์ในย่านบางยี่ขัน” ซึ่งเป็นการแสดงดนตรีประกอบการแสดงที่มีฉากหลังเป็นเจดีย์สามองค์ รูปทรงแตกต่างกัน ในพื้นที่บริเวณวัด ให้ผู้มาเยี่ยมชมได้รับชมการแสดงการแสดงดนตรีที่หาชมได้ยากอีกด้วย โดยเป็นการแสดงจากสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา นำโดย ผศ.ดร.อโณทัย นิติพน รองอธิการบดี สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา เช่นเดียวกับการแสดงดนตรีลาวและอีสาน โดยดนุเชษฐ์ วิสัยจร ร่วมกับสุกัญญา สมไพบูลย์ และทีมนักดนตรีมหัศจรรย์ ที่จะสะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตและการตั้งถิ่นฐานของชุมชนบางยี่ขัน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีการแสดงโขนจิ๋วตอน “สัมนักขาก่อศึก” โดยโรงละครวัฒนธรรมเทพากร ณ ลานวัดพระยาศิริไอยสวรรค์อีกด้วย
และเมื่อผู้ร่วมงานเดินมาถึง ณ บริเวณวัดสวนสวรรค์ ก็จะได้พบกับการจัดแสดง Pocket Garden: The garden of heaven (สวน + สวรรค์) ซึ่งเป็นภาพจินตนาการของความสุข ความอุดมสมบูรณ์ และความงดงามด้วยพรรณไม้นานาหลากสีสัน ถือเป็นภาพจำลองของสวนสวรรค์ ที่ทาง CEA ร่วมกับภาคีเครือข่าย ได้ชุบชีวิตพื้นที่ส่งที่ซ่อนตัวอยู่ภายในวัดร้างแห่งนี้ ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดง Sowcase: Reveal The Lost Beauty Garden ถือเป็นการแสดงคุณค่าทางสถาปัตยกรรมของวัดสวนสวรรค์ที่ปัจจุบันได้เลือนหายไป ผ่านการสร้างภาพจำลอง สันนิษฐานรูปแบบอุโบสถเมื่อครั้งอดีตที่ยังสมบูรณ์ โดมีการเก็บข้อมูลรูปแบบอาคารและลวดลายองค์ประกอบประดับตกแต่ง พร้อมมีฟิลเตอร์อินสตาแกรมดอกไม้จากสวนสวรรค์ที่ร่วงโรยลงมา เสมือนว่าผู้เยี่ยมชมได้อยู่ท่ามกลางสวนสวรรค์จริง ๆ
สำหรับเทศกาล “UNFOLDING BANGKOK” ได้จัดกิจกรรมต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเน้้นการสร้างสรรค์แหล่งท่องเที่ยงใหม่ ๆ ที่ถูกลืม ทั้งยังสามารถท่องเที่ยวและชมศิลปะได้ในยามค่ำคืน ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ใหม่ของการท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถติดตามกิจกรรมต่อเนื่องของเทศกาลนี้ได้ ผ่านเฟสบุ๊กของ CEA https://www.facebook.com/CreativeEconomyAgency
ดูเนื้อหาต้นฉบับ
ที่มา : https://www.sanook.com/travel/1435617/
ขอขอบคุณ : https://www.sanook.com/travel/1435617/