ที่ จ.นครพนม บรรยากาศการท่องเที่ยวคืนวันออกพรรษา ตลอดแนวริมฝั่งน้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม เนืองแน่นไปด้วยประชาชน นักท่องเที่ยว นับแสนคน ต่างเดินทางเข้ามาชื่นชมความสวยงาม อลังการ ของเรือไฟ จำนวน 12 ลำ เกิดจากความสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจ ของชาวบ้านศิลปินเรือไฟ เพื่อสืบสานประเพณี ส่งเสริมกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ช่วงงานประเพณีออกพรรษา ไหลเรือไฟ
ปีนี้เรือไฟส่วนใหญ่ออกแบบลวดลาย เป็นภาพสัญลักษณ์ สื่อถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยว สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สำคัญของ จ.นครพนม อาทิ องค์พระธาตุพนม พญาศรีสัตตนาคราช สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 นครพนม -คำม่วน รวมถึงสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ บางลำทุ่มทุนสร้างนับล้านบาท ความยาวประมาณ 70-80 เมตร ความสูงประมาณ 20-30 เมตร ประดับด้วยตะเกียงไฟโบราณ มากกว่า 20,000-30,000 ดวง สำคัญเรือไฟทุกลำที่ส่งเข้าประกวด ประกอบด้วย ประเภทความสวยงาม และความคิดสร้างสรรค์ เกิดจากความสามัคคี พลังศรัทธา แรงงานไม่มีค่าแรงงาน ไม่หวังค่าจ้างรางวัล
เช่นเดียวกันกับ เรือไฟ ของศิลปินเรือไฟชาว อ.โพนสวรรค์ ถือเป็นเรือไฟไฮไลท์ ที่สร้างความสนใจกับประชน นักท่องเที่ยวทุกปี ทั้งขนาดความยาว เรียกได้ว่าเรือไฟใหญ่สุดในโลก ความยาว ประมาณ 80 เมตร ความสูงประมาณ 30 เมตร ติดตั้งตะเกียงไฟโบราณ มากกว่า 20,000 ดวง ทุ่มทุนสร้างปีละนับล้านบาท เช่นเดียวกันปีนี้ ถือว่า เป็นเรือไฟ ที่สร้างความสวยงาม อลังการ ตื่นตา แก่ประชาชน นักท่องเที่ยว ไม่แพ้ทุกปี คาดว่าปีนี้ มีประชาชน นักท่องเที่ยว มาเที่ยวชมในงานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟ นับแสนคน กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก ถูกจับจองเต็ม เชื่อว่าเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
ดูเนื้อหาต้นฉบับ
ที่มา : https://www.sanook.com/travel/1443491/
ขอขอบคุณ : https://www.sanook.com/travel/1443491/