แนะนำ 3 เส้นทางสุขทันที…ที่เที่ยวเมืองรองภาคอีสาน ตามรอยพญานาค เอาใจสายมู รับพลังจากธรรมชาติเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต ปังทั้งการเงิน การงาน และคู่ครอง ขับรถเที่ยวเองก็ง่ายแสนง่าย จะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย
เส้นทางที่ 1 จ.อุดรธานี – บึงกาฬ “มูให้เฮง เที่ยวให้รับพลังแบบรักษ์โลก”
ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน
วันที่ 1 ตลาดผ้านาข่า – วัดป่าดงหนองตาล – พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี – องค์ศรีสุขคเณศ – @บียอนด์ คาเฟ่ – ศาลหลักเมืองอุดรธานี – หนองประจักษ์ – ร้านลาบนัว
ช่วงเช้า
แวะช็อปปิ้งที่ ตลาดผ้านาข่า ตลาดพื้นเมืองหาชุดใส่เที่ยวเก๋ๆ สไตล์อีสาน จากนั้นแวะ วัดป่าดงหนองตาล ดินแดนแห่งพญานาค จ.อุดรธานี สถานที่ประดิษฐาน พ่อปู่เกศแก้วนาคาธิบดี และ แม่ย่าละอองดาว ซึ่งเป็นพญานาคที่ปกปักษ์รักษาวัดแห่งนี้ ตกแต่งสถานที่ได้อย่างสวยงาม (โทร 085-012-8007) อิ่มอร่อยกับร้านอาหารมิชลินไกด์ อุดรธานี 2023 ของดีแดนอีสานที่ VT แหนมเนือง (โทร 042-219-556) หรือ มัจฉาผาสุก (โทร 094-428-2254) ความอร่อยระดับตำนาน จากรุ่นคุณยาย ที่อยู่คู่เมืองอุดรมายาวนานมากกว่า 42 ปี
ช่วงบ่าย
มารู้จักอุดรธานี ที่ “พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี” จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับจังหวัดอุดรธานี ทั้งประวัติศาสตร์ โบราณคดี ธรรมชาติวิทยา ธรณีวิทยา ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และศิลปวัฒนธรรมในอาคารแบบโคโลเนียล 2 ชั้น สักการะขอพร “องค์ศรีสุขคเณศ” เป็นการนำพระพิฆเนศวร ผสมผสานพลังศรัทธา “พ่อปู่ศรีสุทโธ” พระพิฆเนศวร 8 กร นาคปรก 9 เศียร มหามงคลแห่งความสุข ความสำเร็จทั้งปวง เอกลักษณ์เฉพาะอุดรธานี หนึ่งเดียวในโลก
แวะนั่งพักจิบกาแฟ-ทานขนมของว่างยามบ่าย คาเฟ่รอบ ๆ หนองประจักษ์ ได้แก่ @บียอนด์ คาเฟ่ สักการะศาลหลักเมืองอุดรธานี ศูนย์รวมความเคารพและความศรัทธาของชาวเมืองอุดรธานี อีกทั้งยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญ อันเป็นที่เลื่อมใสบูชาเป็นอย่างสูง ได้แก่ หลวงพ่อพระพุทธโพธิ์ทอง และ ท้าวเวสสุวรรณ
ตกเย็นแวะสวนสาธารณะหนองประจักษ์ สวนสาธารณะใจกลางเมืองอุดรธานีอันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่คนมาถึงจังหวัดอุดรธานีแล้วต้องมา ร่มรื่นชื่นปอด เดินเล่น ออกกำลังกาย หรือไปนั่งพักชิลล์ๆ ได้เดินออกกำลังกาย ชมบรรยากาศ หรือหาของกินรอบ ๆ จากนั้นรับประทานอาหารเย็นที่ ร้านลาบนัว
วันที่ 2 ทะเลบัวแดง – พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง – ลาบเป็ดบ้านเชียง – พุทธอุทยานวัดป่าดงไร่ วัดสันติวนาราม – วัดศรีดาราม – ครัวเสวย
ช่วงเช้า
ชมดอกบัวแดงบานพร้อมกันละลานตา นั่งเรือท่ามกลางทะเลบัวแดง ถ่ายรูปออกมาสวยงามมาก ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการล่องเรือชมดอกบัวแดงบาน คือ เวลา 06.00-11.00 น. (ช่วงเดือน ธ.ค. – ก.พ.) ท่าเรือบ้านเดียม /ท่าเรือเชียงแหว/ท่าเรือแซแล เรือลำใหญ่ นั่งได้ 6-8 คน ราคา 500 บาท ค่าเรือลำเล็กนั่งได้ 2 คน ราคา 300 บาท
จากนั้นแวะพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียง จัดแสดงวิถีชีวิตของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อราว 5,000 -1,400 ปีมาแล้ว เป็นมรดกโลกอันดับที่ 359 ในเดือนธันวาคม ปี พ.ศ. 2535 ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็น “แหล่งวัฒนธรรมบ้านเชียง” และนับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณคดีอันดับที่ 4 ของประเทศไทย ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย
นอกจากนี้ยังสามารถแวะไปชมหลุมขุดค้น ชมวิถีชีวิตไทพวน (โทร.042 235 040) และรับประทานอาหารกลางวัน ที่ร้านลาบเป็ดบ้านเชียง (โทร. 090 583 3437)
ช่วงบ่าย
พุทธอุทยานวัดป่าดงไร่ วัดสันติวนาราม บ้านเชียง ต.บ้านเชียง พระอุโบสถกลางน้ำทรงดอกบัว หนึ่งเดียวในสยามบนสระขนาดใหญ่ของวัดป่าดงไร่ เชื่อมกับฝั่งโดยมีสะพานสีขาวทอดยาวสู่พระอุโบสถ บรรยากาศโดยรอบ สงบ เงียบ ตอนเช้าและเย็น จะเห็นฝูงนกจำนวนมากบินวน บ้างก็จะทำรังอยู่ที่นี่เลย บริเวณวัดที่อยู่กลางป่า
สัมผัสกับความสวยงามของของพญานาคเก้าเศียรที่งดงามเต็มไปด้วยมนต์ขลัง ถิ่นของพ่อปู่ศรีสุทโธและย่าศรีดาจันทร์ วัดศรีดาราม จากแรงศรัทธาของลูกหลานพญานาค เป็นที่ประดิษฐานของ พ่อปู่ศรีสุทโธ พญานาคเก้าเศียร ที่มีลำตัวยาวกว่า 131 เมตร เลื้อยพาดผ่านบ่อน้ำขนาดใหญ่ จากเกาะหอปู่ด้านใน คดเคี้ยวมาจนถึงฝั่งวัดแผ่เศียรปกคลุมด้านหลัง ปู่ใหญ่เพชรจักรพรรดิ
แวะป่าคำชะโนด สถานที่ท่องเที่ยวศักดิ์สิทธิ์ ที่คนนิยมเดินทางมาเพื่อขอโชคลาภ ด้วยความเชื่อว่าเป็นดินแดนของพญานาค สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ และเป็นทางเชื่อมต่อเมืองบาดาล ถูกปกปักรักษาโดย “พญานาคราช” ทำให้เกาะคำชะโนดไม่เคยจมน้ำ! เป็นเหมือนเกาะลอยน้ำที่เต็มไปด้วย “ต้นชะโนด” มีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นมหาเทพนาคา สะพานปูนรูปปั้นพญานาค บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และรากต้นมะเดื่อยักษ์ จากนั้นรับประทานอาหารเย็น ร้านอาหาร ครัวเสวย อ.เมือง จ.บึงกาฬ (โทร. 0913631495)
วันที่ 3 หินสามวาฬ – พระหน้าทอง วัดป่าเมืองเหือง – ร้านอาหารหลบมุมซอย 8 – เกาะดอนโพธิ์
ช่วงเช้า
เดินทางขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้น สูดอากาศธรรมชาติยามเช้า บริเวณ “หินสามวาฬ” จุดชมวิวขึ้นชื่อจังหวัดบึงกาฬ เป็นจุดชมวิวที่สวยงามโดดเด่นด้วยหินยักษ์ขนาดใหญ่มีลักษณะรูปร่างคล้ายปลาวาฬ 3 ตัวติดหน้าผาสูง โดยนักท่องเที่ยวสามารถยืนชมทัศนียภาพของป่าภูวัว ผ่านทิวทัศน์สองฝั่งโขงที่สวยงามของไทยและลาวที่ตั้งอยู่เหนือสุดแดนอีสาน
สักการะพระหน้าทอง วัดป่าเมืองเหือง (วัดศรีบุญเรือง) อ.เมือง จ.บึงกาฬ โดดเด่นด้วยโบสถ์สีทองอร่าม เต็มไปด้วยพญานาครายล้อมรอบโบสถ์ ส่วนด้านหน้ามีรูปปั้นของพ่อปู่ศรีสุทโธกับแม่ย่าศรีปทุมมาไว้ให้ลูกหลานพญานาคได้มาสักการะขอพร แต่ที่เป็นอันซีนของเมืองไทย คือ “พระนะหน้าทอง” หรือ “พระพุทธนาคนิมิตต์” พระพุทธรูปที่มีสีทองเฉพาะบริเวณพระพักตร์หรือใบหน้า ในขณะที่ทั้งองค์เป็นสีดำ
ศาลตำหนักปู่อื้อลือ สถานที่แห่งความศรัทธาที่ชาวบ้านมักจะบนบานศาลกล่าวหรือขอพรจากท่านให้แคล้วคลาดปลอดภัยทุกครั้งที่ออกไปหาปลาในบึง หรือแม้แต่เรื่องหน้าที่การงาน เรื่องต่าง ๆ เพื่อให้สมปรารถนา ตามตำนานกล่าวว่าบึงโขงหลง เกิดจากการล่มเมืองของพญานาคซึ่งเกิดจากความรักที่ไม่สมหวังระหว่างพญานาคกับมนุษย์ โดยต้นเหตุคือ พระอือลือราชาทำให้เมืองที่เจริญรุ่งเรืองล่มสลาย พร้อมกับคำสาปของพญานาคราชให้พระอือลือราชากลายร่างเป็นนาคเฝ้าอยู่ในบึงโขงหลงชั่วนิรันดร์จนกว่าจะมีเมืองเกิดใหม่ในดินแดนแห่งนี้จึงจะล้างคำสาปของพญานาคราชได้ ซึ่งในอดีตพื้นที่นี้ขึ้นกับจังหวัดหนองคาย แต่ปัจจุบันอยู่ในเขตพื้นที่ของจังหวัดใหม่คือ บึงกาฬ
รับประทานอาหารกลางวันที่ ร้านอาหารหลบมุมซอย 8 (โทร. 062-296-2891) หรือร้านครัวคุณเพชร (โทร. 088-518-6586)
ช่วงบ่าย
เกาะดอนโพธิ์ ดินแดนแห่งศรัทธา อยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้าปู่อือลือ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ถือว่า เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ สถานที่แห่งนี้ตั้งโดดเด่นอยู่กลางน้ำ เชื่อกันว่า เกาะดอนโพธิ์ คือสถานที่ที่พญานาคปู่อือลือมักจะมาปฏิบัติธรรม เพราะเป็นเกาะที่เงียบสงบ มีต้นไม้และมีน้ำล้อมรอบบรรยากาศเย็นสบาย
เส้นทางที่ 2 จ.หนองคาย – บึงกาฬ “มูให้เฮง เที่ยวให้รับพลังแบบรักษ์โลก”
ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน
วันที่ 1 วัดโพธิ์ชัย – พระธาตุหล้าหนอง – ชุมชนบ้านเดื่อ – วัดอาฮงศิลาวาส – คักแท๊ะแสนพันโฮมสเตย์
ช่วงเช้า
วัดโพธิ์ชัย วัดสำคัญแห่งเมืองหนองคาย สักการะ “หลวงพ่อพระใส” พระคู่บ้านคู่เมืองหนองคาย มีตำนานเล่าว่าพระธิดา 3 พระองค์ของกษัตริย์ล้านช้าง ได้หล่อพระพุทธรูปขึ้น 3 องค์ และถวายนามพระพุทธรูป ตามพระนามของแต่ละพระองค์ แต่เดิมพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ ประดิษฐานอยู่ที่นครเวียงจันทน์ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้อัญเชิญพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ ลงเรือข้ามฝั่งแม่น้ำโขง มายังเมืองหนองคาย แต่เกิดพายุพัดแรงจน “พระสุก” ตกน้ำจมหายไป ส่วน “พระเสริม” และ “พระใส” ได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย
นมัสการ พระธาตุหล้าหนอง หรือ พระธาตุกลางน้ำ กลางลำน้ำโขง เมื่อ พ.ศ. 2390 องค์พระธาตุ ถูกน้ำกัดเซาะ พังทลายลงสู่แม่น้ำโขงห่างจากฝังประมาณ 200 เมตร ภายในองค์พระธาตุประดิษฐานพระบรมธาตุฝ่าพระบาทจำนวน 9 พระองค์ตามตำนานอุรังคธาตุ (พระธาตุพนม)
ศาลาแก้วกู่ ถูกสร้างเพื่อเป็นอุทยานเทวาลัยแห่งศรัทธา มีรูปปั้นก่ออิฐถือปูนรูปทรงแปลกตาตั้งอยู่กลางแจ้งจำนวนมากมาย สร้างตามคติความเชื่อของหลวงปู่บุญเหลือ สุรีธัตน์ ที่ว่าทุกศาสนาสามารถผสมผสานกันได้
สัมผัสวิถีผู้คนริมน้ำโขง ที่ชุมชนบ้านเดื่อ จังหวัดหนองคาย เที่ยววิถีชีวิตผู้คนริมน้ำโขง ที่ชุมชนบ้านเดื่อ เช็กอินที่ ต้นมะเดื่ออายุกว่า 200 ปี ที่มาของชื่อบ้านเดื่อ มะเดื่อเป็นอัตลักษณ์ของชุมชนที่สามารถนำมาทำเป็นของกิน ของใช้ หรือแม้แต่เสื้อผ้า เสื้อมัดย้อม ที่ใช้สีจากเปลือก กิ่งก้าน ลำต้นของมะเดื่อ และ สบู่มะเดื่อชุมชนท่องเที่ยวบ้านเดื่อ – เที่ยววิถีชุมชน พร้อมรับประทานอาหาร (โทร. 083 289 8264)
ช่วงบ่าย
เที่ยวชมวิว ริมแม่น้ำโขง ที่ วัดอาฮงศิลาวาส ตั้งอยู่ที่ บ้านอาฮง อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ริมฝั่งแม่น้ำโขงบริเวณแก่งอาฮง นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของบึงกาฬ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงดงาม ติดกับแม่น้ำโขงเป็นแนวโค้งยาว นอกจากนี้ยังมีเรื่องของความเชื่อเกี่ยวกับพญานาค โดยเชื่อกันว่า จุดนี้เป็น สะดือแม่น้ำโขง โดยในช่วงเดือนมีนาคมไปถึงพฤษภาคมของทุกปี เราจะสามารถมองเห็นแก่งอาฮง ปรากฎขึ้นมาเหนือน้ำ
คักแทะแสนพันโฮมสเตย์ บ้านห้วยเล็บมือ ตำบลหนองเดิ่น อำเภอนุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ โฮมสเตย์วิถีคนริมโขง สะอาด กว้างขวาง สามารถเลือกได้แบบรวมอาหารเช้า-กลางวัน-เย็น หรือถ้าอยากทำกิจกรรม เช่น ปั่นจักรยาน ล่องเรือ นวดแผนโบราณ
วันที่ 2 หินสามวาฬ หาดคำสมบูรณ์ – ศาลตำหนักปู่อื้อลือ – เกาะดอนโพธิ์
ช่วงเช้า
เดินทางขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้น สูดอากาศธรรมชาติในยามเช้าบริเวณ “หินสามวาฬ” จุดชมวิวขึ้นชื่อ จังหวัดบึงกาฬ เป็นจุดชมวิวที่สวยงามโด่ดเด่นด้วยหินยักษ์ขนาดใหญ่มีลักษณะรูปร่างคล้ายปลาวาฬ 3 ตัวติดหน้าผาสูง โดยนักท่องเที่ยวสามารถยืนชมทัศนียภาพของป่าภูวัว ผ่านทิวทัศน์สองฝั่งโขงที่สวยงาม ของไทยและลาวที่ตั้งอยู่เหนือสุดแดนอีสาน
หาดคำสมบูรณ์ หรือบางแสนแดนอีสาน แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในจังหวัดบึงกาฬ เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ และวิวสวยขั้นอลังการทีเดียว มองเห็นอุทยานแห่งชาติภูลังกาได้ชัดเจน โดยเฉพาะช่วงเย็น ๆ แสงแดดส่องไปสวยมาก
ช่วงบ่าย
ศาลตำหนักปูอื้อลือ สถานที่แห่งความศรัทธาที่ชาวบ้าน มักจะบนบานศาลกล่าวหรือขอพรจากท่านให้แคล้วคลาดปลอดภัยทุกครั้งที่ออกไปหาปลาในบึง หรือแม้แต่เรื่องหน้าที่การงาน เรื่องต่าง ๆ เพื่อให้สมปรารถนา ตามตำนานกล่าวว่า บึงโขงหลง เกิดจากการล่มเมืองของพญานาค ซึ่งเกิดจากความรักที่ไม่สมหวังระหว่างพญานาคกับมนุษย์ โดยต้นเหตุคือ พระอือลือราชาทำให้เมืองที่เจริญรุ่งเรืองล่มสลาย พร้อมกับคำสาปของพญานาคราช ให้พระอือลือราชากลายร่างเป็นนาคเฝ้าอยู่ในบึงโขงหลงชั่วนิรันดร์จนกว่าจะมีเมืองเกิดใหม่ในดินแดนแห่งนี้ จึงจะล้างคำสาปของพญานาคราชได้ ซึ่งในอดีตพื้นที่นี้ ขึ้นกับจังหวัดหนองคาย แต่ปัจจุบันอยู่ในเขตพื้นที่ ของจังหวัดใหม่คือ บึงกาฬ
เกาะตอนโพธิ์ ดินแดนแห่งศรัทธา อยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้าปู่อือลือ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ถือว่า เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ สถานที่แห่งนี้ตั้งโดดเด่นอยู่กลางน้ำ เชื่อกันว่า เกาะดอนโพธิ์ คือสถานที่ที่พญานาคปู่อือลือมักจะมาปฏิบัติธรรม เพราะเป็นเกาะที่เงียบสงบ มีต้นไม้และมีน้ำล้อมรอบบรรยากาศเย็นสบาย
วันที่ 3 ถ้ำนาคา อุทยานแห่งชาติภูลังกา
ช่วงเช้า
ถ้ำนาคา ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ รอยต่อระหว่างจังหวัดบึงกาฬกับนครพนม ภายในถ้ำจะพบกับหิน ที่มีรูปร่างคล้ายกับ งูยักษ์ หรือ ลำตัวของพญานาค มีลักษณะเหมือน เกล็ดของงูขนาดใหญ่ ในทางธรณีวิทยา เกิดจากหินบนพื้นผิวโลกผ่านการเปลี่ยนแปลง อุณหภูมิร้อนเย็นสลับกัน กระบวนการทางกายภาพเกิดการผุพังปริแตกตามพื้นผิวโดยรอบหิน เรียกว่า ซันแครก (sun crack) มีเรื่องเล่าตำนานความเชื่อที่นำไปผูกโยงกับพญานาคว่า ถ้ำนาคา คือ พญานาคหรืองูยักษ์ที่ถูกสาปให้กลายเป็นหิน
เส้นทางที่ 3 จ.สกลนคร – นครพนม – มุกดาหาร “กลุ่มจังหวัดสนุก”
ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน
วันที่ 1 ร้านเลิศรสอาหารเช้า – วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร – ร้านครามทอง – วัดถ้ำผาแด่น – ร้านครามสกล – ฟาร์มฮัก
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ร้านเลิศรสอาหารเช้า (โทs 087-1493171, 098-1013022) จากนั้นเดินทางไปยัง วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ไหว้สักการะขอพรองค์พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดสกลนคร และหลวงพ่อพระองค์แสนพระพุทธรูปประจำจังหวัด สกลนคร สถาปัตยกรรมทรงเจดีย์ก่ออิฐถือปูนรูปสี่เหลี่ยม องค์พระราตุเชิงชุม สร้างครอบรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าสี่พระองค์ซึ่งหมายถึง พระกกุสันทะ พระโกนาคม พระกัสสะปะและพระโคดมหรือพระศรีอารียเมตตรัย
แวะซื้อของฝากสินค้าผ้าย้อมคราม (โทร. 085 013 0191) จากนั้นรับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านสะบันงา ( โทร. 042 733 428 หรือบ้านฟ้าโปร่ง (โทร. 042 715 729) ชิมเมนู “แกงหวาย” อาหารพื้นบ้านของจังหวัดสกลนคร ซึงได้รับคัดเลือกให้เป็นอาหารประจำจังหวัดสกลนคร หรืออาหารประจำถิ่น 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” ภายใต้โครงการการส่งเสริม และพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทยThailand Best Local Food) “sสชาติ…ที่หายไป The Lost Taste” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ตามประกาศของ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม
ช่วงบ่าย
เดินทางไปยัง วัดถ้ำผาแด่น อีกหนึ่งในสถานที่ห้ามพลาดของสกลนคร โดดเด่นด้วยรูปปั้น องค์พญานาคปรกขนาดใหญ่ ภาพแกะสลัก บนหน้าผาหินที่มีเอกลักษณ์วิจิตรศิลป์ ชมประติมากรรมหินทราย เรื่องราวพระพุทธศาสนา ศาสนาพราหมณ์
เดินทางไป ร้านครามสกล (โทs 092 515 9455) เลือกซื้อสินค้าผ้าครามที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสกลนคร ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นผ้าผิวสวย ป้องกันแสงยูวี หรือ สามารถทำกิจกรรม DIY ย้อมผ้าครามกับทางร้านได้ รับประทานอาหารเย็นโคขุนโพนยางคำที่ ฟาร์มฮัก (โทร 098 929 3565) อาหารขึ้นชื่อของจังหวัดสกลนคร เมนูที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน เช่น เนื้อโคขุนกระทะร้อน สเต็กเนื้อโคขุน ฯลฯ แล้วจึงเข้าที่พัก ในเมืองสกลนคร
วันที่ 2 อุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติ – หมู่บ้านท่าแร่ – ร้านเติบโต – รถรางชมเมืองนครพนม – ร้าน 76A The Space – พญาศรีสัตตนาคราช – แม่โขงพาราไดซ์ครูส – ถนนคนเดินริมฝั่งโขง
ช่วงเช้า
เดินทางไปยังอุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติชมดอกบัวหลากสีสัน ที่มีมากกว่าหลายร้อยสายพันธุ์มีสะพานทอดยาวไปยังกลางบึงบัวให้ นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป และขอพรองค์พญานาคเผือก ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมอุทยานบัวฯ เยี่ยมชม หมู่บ้านท่าแร่ ชุมชนชาวคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ถ่ายรูปกับตึกโบราณอายุนับ 100 ปี
ออกเดินทางทางไปจังหวัดนครพนม รับประทานอาหารกลางวัน ร้านเติบโต ร้านอาหารบรรยากาศดีริมน้ำโขง ตำบลอาจสามารถ (โทร. 084 5114001, 063 839 9000) ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนชนเผ่าไทแสก ชุมชนที่ริเริ่มเมนู “เมี่ยงตาสวด” เมนูอาหารผ่านการคัดเลือก ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) “รสชาติ. .. ที่หายไป The Lost Taste” และเป็นเมนูประจำแสดงอัตลักษณ์ของท้องถิ่น (ซึ่งสามารถซื้อเมี่ยงตาสวดเป็นของฝากท้องถิ่นได้ โดยติดต่อชุมชนไทแสกก่อนเข้าชม (ติดต่อชุมชนไทแสก คุณจารุวรรณ โทร. 061-437-4637)
ช่วงบ่าย
นั่งรถราง ชมเมืองนครพนม และชมบรรยากาศริมฝั่งโขงนครพนม แวะชิมกาแฟยามบ่าย และถ่ายภาพ ที่ ร้าน 76A The Space อาคารเก่าสไตล์โคโลเนียลดื่มกาแฟซิล ชิค ที่ร้านกาแฟเก้ไก๋ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ไหว้ขอพรพญาศรีสัตตนาคราช ประติมากรรมพญานาค 7 เศียรพ่นน้ำ ขดลำตัวและหางหล่อด้วยโลหะทองเหลืองทั้งตัว หันหน้าออกสู่แม่น้ำโขงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นแลนด์มาร์คของเมืองนครพนมและสัญลักษณ์นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง
ล่องเรือสำราญ เรือแม่โขงพาราไดซ์ ครูซ ชมวิวแม่น้ำโขงและแขวงคำวน สปป.ลาว ชมบรรยากาศเขาของลาว วิวของเรา และรับประทานอาหารเย็นบนเรือ จากนั้นเข้าที่พัก ติดริมแม่น้ำโขง
วันที่ 3 วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร – แก่งกะเบา – หมูหันแก่งกะเบา – พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช – พญาอนันตนาคราช – สะพานมิตรภาพไทย-ลาว – พญาศรีมุกดามหามุนีนิลปาลนาคราช – ชุมชนไทญ้อ – เจดีย์ชัยแก้วมงคล
ช่วงเช้า
ออกเดินทางไปยัง วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหารอำเภอธาตุพนม เพื่อนมัสการพระธาตุพนมอันศักดิ์สิทธิ์ พระธาตุประจำวันผู้เกิดวันอาทิตย์ พระธาตุพนม ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครพนมเท่านั้น แต่ยังเป็นที่เคารพของชาวไทยภาคอื่น ๆ และพี่น้องชาวลาวอีกด้วย
ออกเดินทางไปยัง แก่งกะเบา อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร รับประทานอาหารเที่ยง ลิ้มลองเมนูขึ้นชื่อ หมูหัน แก่งกะเบา ที่ย่างจนหนังกรอบ เนื้อนุ่ม กินคู่กับน้ำจิ้มรส เด็ด และ มองเห็นวิวลำน้ำโขงทอดยาวซึ่งเป็นพรมแดนกั้นระหว่าง ประเทศไทยและเมืองไชยบุรี สปป.ลาว อากาศปลอดโปร่ง มีลมพัดตลอดเวลา
ช่วงบ่าย
ไหว้สักการะขอพร พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช (พญานาคดิน) องค์พญานาคที่ประดับด้วยเกร็ดหินอ่อนสีขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สีขาวเปล่งประกายท่ามกลางแสงแดด ที่ แก่งกะเบา อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร และ ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าริมฝั่งโขงบริเวณแก่งกะเบา เป็นสถานที่ ท่องเที่ยวศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อว่า หากใครได้มากราบไหว้สักการะ จะอุดมสมบูรณ์ มั่นคง มั่งคั่ง ร่ำรวย
เดินทางไป สักการะขอพร พญาอนันตนาคราช (พญานาคน้ำ) ที่จุดชมวิวสะพานมิตรภาพ ไทย ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร สะหวันนะเขต) สัมผัสเสน่ห์ริมโขงมุกดาหาร ชมวิวสะพานมิตรภาพไทย ลาว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ ว่าหากใครได้มากราบไหว้สักการะจะ ร่มเย็น ร่มรื่น ราบรื่น
ออกเดินทางไป สักการะขอพร พญาศรีมุกคามหามุนีนิลปาลนาคราช (พญานาคฟ้า) ที่วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ และชมทิวทัศน์ สุดลูกหูลูกตาของสองฝั่งโขงไทย ลาว บนจุดชมวิวที่สวยที่สุด ที่ลานชมวิวสุดเขตแดนสยาม และไหว้ขอพร พระพุทธมิ่งมงคลมุนีศรีมุกดาหาร พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ที่ประดิษฐานบนภูมโนรมย์ ตามความเชื่อว่าหากใครได้มากราบไหว้สักการะ พญานาคฟ้า จะเจริญรุ่งเรือง เติบโต เลื่อนตำแหน่ง
เดินทาง ไปยังชุมชนไทญ้อ อ.นิคมคำสร้อย ชิมอาหารว่างเมนู “ตำเมี่ยงตะไคร้ ลำข่าสดใส่มดแดง” ซึ่งได้รับคัดเลือกให้เป็นอาหารประจำจังหวัดมุกดาหาร หรืออาหารประจำถิ่น 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น ภายใต้โครงการการส่งเสริม และพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) “รสชาติ…ที่หายไป The Lost Taste” ประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ตามประกาศของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม
ออกเดินทางไปยัง วัดด่านพระอินทร์ อ.นิคมคำสร้อย นมัสการเจดีย์ชัยแก้วมงคล องค์พญานาค พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ และพระพุทธรูปต่างๆ รวมไปถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดอื่นๆ จากนั้นเดินทางไปยัง ทุ่งกังหันลม “ร่มเกล้าวินด์ฟาร์ม” โครงการทุ่งกังหันลม กังหันลมที่มีความสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก สร้างพลังงานทดแทนที่ยั่งยืน แล้วจึงเดินทางกลับกรุงเทพฯ
เป็นอย่างไรบ้างสำหรับเส้นทางขับรถเที่ยวเมืองรองภาคอีสานตามรอยพญานาค ถ้าพร้อมแล้วก็เตรียมตัวเก็บกระเป๋า จองที่พัก และออกเดินทางกันได้เลย
#สุขทันทีที่เที่ยวเมืองรอง
#เปิดประสบการณ์ใหม่เที่ยวเมืองรองมิรู้ลืม
#365วันมหัศจรรย์เที่ยวเมืองรอง
#AmazingThailand
ดูเนื้อหาต้นฉบับ
ที่มา : https://www.sanook.com/travel/1447143/
ขอขอบคุณ : https://www.sanook.com/travel/1447143/