Tea for Trees ชุดน้ำชายามบ่าย โปรเจคต์ใหม่ของ ดิ ออเธอร์ส เล้าจน์ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ที่จะชวนทุกคนไปปลูกป่าและรู้จักต้นไม้ไทยที่หลายคนลืมเลือน
Focus
- ชุดน้ำชายามบ่าย Tea for Trees คือโปรเจคต์ของ ดิ ออเธอร์ส เล้าจน์ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ที่คิดหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้แขกสามารถมีส่วนร่วมในการส่งเสริมและรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วยกันได้
- ทุกการสั่งชุดน้ำชายามบ่าย Tea for Trees 1 ชุด เราจะได้รับ QR Code ที่เปรียบได้กับต้นไม้ 1 ต้น หรือพูดง่ายๆ ก็คือการได้ร่วมสมทบทุนให้กับเกษตรกรในการปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นอีก 1 ต้น
- ต้นไม้จากการปลูกในโครงการ Tea for Trees จะได้รับการปลูกขึ้นจริงที่ ตำบลหนองทะเล จังหวัดกระบี่
จะเป็นอย่างไร หากการจิบน้ำชายามบ่ายเท่ากับการปลูกต้นไม้ 1 ต้น ก่อนอื่นนี่ไม่ใช่สมการหรือปริศนาทายคำแต่อย่างใด เพราะตอนนี้ทาง ดิ ออเธอร์ส เล้าจน์ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กำลังรันโปรเจคต์ด้านสิ่งแวดล้อมไปอีกขั้น ด้วยการเปิดตัวชุดน้ำชา Tea for Trees ได้แรงบันดาลใจมาจากป่าไม้สีเขียวชอุ่ม โปรเจ็กต์ที่นอกจากเราจะได้รื่นรมย์กับการจิบชาและขนมน้ำชาหน้าตาสุดน่ารัก ยังเป็นโอกาสที่จะได้ร่วมเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศไทยด้วยการปลูกต้นไม้อีกหนึ่งต้นระหว่างมื้อพิเศษนี้อีกด้วย
เบื้องหลังแนวคิดชุดน้ำชาล่าสุดนี้ เกิดจากไอเดียที่ทาง โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล คิดหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้แขกสามารถมีส่วนร่วมในการส่งเสริมและรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วยกันได้ โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่เร่งรีบและอาจมีเวลาจำกัด จึงเป็นที่มาของโปรเจคต์ Tea for Trees จากความร่วมมือของโรงแรมกับมูลนิธิ Conserve Natural Forests (CNF) และแอปพลิเคชัน EcoMatcher เกิดเป็นกิจกรรมเล็กๆ ที่จุดประกายให้เรารู้สึกใกล้ชิดกับการส่งเสริมสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
หากใครกำลังสงสัยว่าทำอย่างไร คำตอบอยู่ที่ปลายนิ้วแค่นี้เอง เพราะทุกการสั่งชุดน้ำชายามบ่าย Tea for Trees 1 ชุด เราจะได้รับ QR Code ที่เปรียบได้กับต้นไม้ 1 ต้น หรือพูดง่ายๆ ก็คือการได้ร่วมสมทบทุนให้กับเกษตรกรในการปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นอีก 1 ต้นนั่นเอง วิธีการก็ง่ายมากแค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน EcoMatcher แล้วสแกน QR Code เพื่อรับต้นไม้ก็เป็นอันเรียบร้อย ซึ่งต้นไม้ที่ว่านี้ได้รับการปลูกขึ้นจริงที่ ตำบลหนองทะเล จังหวัดกระบี่ โดยที่เราสามารถตั้งชื่อและเข้าไปดูข้อมูลของต้นไม้ รวมไปถึงเกษตรกรที่ลงมือปลูกต้นไม้ให้กับเราได้ และแม้มื้อนี้จะจบลงไปแล้ว เราก็ยังสามารถเข้าไปติดตามการเติบโตของต้นไม้ที่เราปลูกได้อยู่ตลอด ว่าเขาเติบโตไปแค่ไหนแล้ว สภาพอากาศที่เป็นอยู่ตอนนี้เป็นอย่างไร อย่างต้นที่เราปลูกคือ “กระบาก” เป็น 1 ในต้นไม้ทั้งหมด 8 ชนิดในแคมเปญนี้ ได้แก่ ไม้กฤษณา ยางนา มะลูด ไม้กระบาก มะหาด เคี่ยม พะยูง และพะยอม ซึ่งทางมูลนิธิ CNF ได้เริ่มต้นปลูกเพื่อช่วยปรับสภาพสิ่งแวดล้อมและฟื้นฟูระบบนิเวศในบริเวณนั้น โดยตั้งเป้าตลอดระยะเวลาแคมเปญ 1,000 ต้น ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2567
ในส่วนของชุดน้ำชา เชฟได้รังสรรค์เมนูขนม 13 ชิ้นจากแรงบันดาลใจเมื่อนึกถึงป่าไม้ที่เขียวชอุ่มอย่างเช่น ขนมฟินองเซียสอดไส้มูสวานิลลาและมิกซ์เบอรีที่เชฟนำเสนอออกมาเป็นรูปเห็ดสีแดงสดใส หรือแม้แต่ชั้นอาหารว่างอย่าง แซนวิชตับไก่บดและเห็ด เชฟได้ครีเอทเป็นทรงขอนไม้ประดับด้วยดอกไม้เล็กๆ เพื่อแฝงปรัชญาเอาไว้ว่าเมื่อชีวิตหนึ่งดับสูญ ย่อมมีชีวิตใหม่เกิดขึ้นเสมอ หรืออีกชิ้นที่น่ารักไม่แพ้กันคือแซนวิชแตงกวาและครีมชีส ที่เสิร์ฟมาในรูปใบไม้และมีหยดน้ำเล็กๆ เกาะอยู่ ชวนให้คิดถึงป่าที่ชุ่มชื้นหลังฝนตก บอกเลยว่าแค่มองหน้าตาขนมก็เพลินสุดๆ แล้ว
Fact File
• จัดเสิร์ฟแล้วตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2567 ดิ ออเธอร์ส เล้าจน์ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ในราคาคนละ 2,250++ บาทต่อเซ็ต สำรองที่นั่งโทร. 02-659-9000
ดูเนื้อหาต้นฉบับ
ที่มา : https://www.sanook.com/travel/1447943/
ขอขอบคุณ : https://www.sanook.com/travel/1447943/