แหลมกระทิง อีกหนึ่งจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามแห่งหนึ่งของภูเก็ต มองเห็นท้องทะเลสีน้ำเงินเข้ม แหลมพรมเทพ และเกาะน้อยใหญ่ อยู่ตรงหน้า ความพิเศษ คือ ความงดงามของทุ่งหญ้าสีทองพริ้วไหว และโขดหินน้อยใหญ่ระหว่างทางเดินให้ได้แทรกตัวในทุ่งหญ้าถ่ายรูปเคล้าแสงยามเย็นได้แบบคูลๆ รวมทั้งก้อนหินไฮไลท์ยอดแหลมชี้ขึ้นฟ้า ที่ตั้งโดดเด่นยื่นไปทางทะเล ด้วยความสวยงามแปลกตา จุดชมวิวแห่งนี้จึงกลายเป็นจุดชมวิวยอดนิยมที่สุดของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวภูเก็ต
สำหรับการเดินทางมา จุดชมวิวแหลมกระทิง สามารถเดินทางได้ 2 ทาง เส้นทางแรก คือ จากบ้านกระทิง รีสอร์ท โดยจอดนอกโรงแรม หรือ จอดในรร.บ้านกระทิงรีสอร์ท ต้องทานอาหาร/เครื่องดื่มให้ครบ 300 บาท หรือจอดอย่างเดียวไม่รับอาหาร 200บาท โดยเดินเลียบกำแพงของรีสอร์ทลงไปถึงหาดในหานเลาะชายหาดสลับโขดหินมาเรื่อยๆ ทางลานชันเป็นบางช่วง ระยะทางประมาณ 200 เมตร ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที และอีกเส้นทางที่ยังไม่ค่อยมีใครทราบเส้นทางนี้เร็วและสั้นกว่า คือ จากลานจอดรถผาหินดำ แต่เส้นทางชันกว่าเพราะต้องเดินลงภูเขา ใช้เวลาเดินลงประมาณ 20 นาที โดยนั่งรถโฟร์วิวค่าบริการคันละ 500 บาท (นั่งได้ไม่เกิน 6 คน ) ติดต่อได้รถที่ลุงเกอ โทร 061 251 8637 รถจะไปส่งที่จุดเริ่มต้นเส้นทางเดินเท้า จากนั้นเดินลงภูเขาผ่านทุ่งหญ้าไปประมาณ 100 เมตร และแน่นอนเราเลือกเส้นทางที่สอง ไปจอดรถไว้ที่ลานจอดรถผาหินดำ ปักหมุดใน google maps มาได้เลย ทางเข้าจะอยู่ทางเดียวกับหาดนุ้ย จากตรงนี้เข้าไปยังลานจอดรถผาหินดำอีก 2 กม. เส้นทางเป็นดินแดงทางไม่ค่อยดีรถเก๋งไปได้แต่ต้องไปแบบช้าๆหน่อย ทางจะดูเปลี่ยวนิดนึงแต่ไม่ต้องกลัวปลอดภัย พอไปถึงลานจอดรถผาหินดำจะมีน้องคนขับโฟร์วิวยืนรออยู่ค่ะ เส้นทางนี้แนะนำควรมีไกด์นำทางเพราะทางเดินเข้าจะงงๆ เรามีคุณลุงเป็นไกด์ ส่วนค่านำทางแล้วแต่สินน้ำใจ เราให้ค่านำทางคุณลุง 300 บาท คุณลุงน่ารักมากดูแลอย่างดี ในภาพ คือ จุดเริ่มเดินทางคุณลุงกำลังพาเราเดินลงไป
สำหรับช่วงเวลาของการมาเที่ยว เวลา 16.30 น. แสงยามบ่ายสวยที่สุดและควรพกน้ำเปล่าติดตัวมาด้วย รองเท้าเพื่อความปลอดภัยของเท้า แนะนำผ้าใบดีที่สุดและต้องเป็นผ้าใบที่เกาะพื้นไม่ใช่ผ้าใบแฟชั่น เพราะทางเดินหินเยอะและเป็นพื้นดิน บางช่วงทางชันต้องปีนเล็กน้อย จากจุดเริ่มเดินลงไปยังไม่ทันถึงแหลมกระทิง ก็ว้าวกับวิวที่เห็นตรงหน้า เดินลงจากทางนี้จะเห็นวิวมุมสูงก่อน เพราะเดินลงจากเขาลงไปยังแหลมกระทิงที่อยู่ข้างล่าง
เดินไปหยุดถ่ายรูปไปด้วย ตอนลงคือเดินไปเรื่อยๆแทบไม่มีความเหนื่อย แค่ต้องออกสเตบเบรคเท้าหน่อยเพื่อไม่ให้ถไลลงไป วิวที่เห็นสุดปลายแหลม นั่นคือ แหลมกระทิง ช่วงบ่ายแก่ๆ นักท่องเที่ยว เริ่มทยอยมาชมบรรยากาศของพระอาทิตย์กันพอสมควร เรามาวันธรรมดานักท่องเที่ยวไม่เยอะมากเท่าเสาร์ อาทิตย์ เดินลงมาไม่ถึง 20 นาที มาถึงแหลมกระทิง มองขึ้นไปตรงยอดเขา นั่นคือ ทางที่เราเดินลงมาค่ะ คือ ตอนลงชิล แต่ไม่อยากจะคิดถึงตอนเดินกลับ เพราะต้องไต่เขาขึ้นคงเหนื่อยมาก
บรรยาศตรงลานชมวิว มีทุ่งหญ้าและก้อนหินน้อยใหญ่ บางก้อนสามารถขึ้นไปนั่งถ่ายรูปเท่ๆได้ วิวข้างหน้า คือ ท้องทะเลสีคราม ที่มีเรือวิ่งผ่านไปมาตลอด กลายเป็นอีกหนึ่งสีสันของจุดชมวิวแห่งนี้ ในช่วงฤดูหนาวถึงร้อนทุ่งหญ้าจะเป็นสีทอง แต่ถ้ามาในช่วงฤดูฝน ทุ่งหญ้าตรงนี้ก็จะเป็นสีเขียว ก็จะมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป
ก้อนหินไฮไลท์ ที่ตั้งโดดเด่น มีลักษณะคล้ายเรือใบ มียอดแหลมชี้ขึ้นฟ้า ยื่นไปทางทะเล กลายเป็นสัญลักษณ์ของแหลมกระทิง ทุกคนต้องมาถ่ายภาพ
นั่งรอพระอาทิตย์ตก ชมวิวบนลานหิน พร้อมรับลมทะเลเย็นๆ ที่พัดผ่าน ได้ยินเสียงนักท่องเที่ยวถ่ายรูป หัวเราะอย่างมีความสุข เป็นความรู้สึกที่ชิลและมีความสุขมาก
ได้เวลาเดินกลับควรกลับก่อนก่อนไม่มีแสงนะคะ เพราะถ้ามืดจะมองไม่เห็นทาง มองย้อนลงไปเห็นวิวของแหลมกระทิงและแสงสีทองยามอาทิตย์ลับขอบฟ้า ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีสวยงามมาก ขอให้คุณลุงมาเป็นแบบให้สักหน่อย คุณลุงอายุจะ 80 ปีแล้ว แต่ยังแข็งแรงมาก พานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ต่างชาติ ขึ้นลงชมวิวที่แหลมกระทิงตลอด รวมทั้งตรงจุดชมวิวผาหินดำ อีกหนึ่งจุดชมพระอาทิตย์ตรงที่อยู่ไม่ไกลกัน จุดชมวิวแหลมกระทิง เป็นความสวยงามที่ต้องแลกกับความเหนื่อยในการเดินเพื่อไปให้ถึง แต่รับรองว่าคุ้มค่ากับวิวสวยอลังการที่เห็นตรงหน้าแน่นอนค่ะ
Tags : จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกภูเก็ต, จุดชมวิวภูเก็ต, จุดชมวิวแหลมกระทิง, เที่ยวภูเก็ต, แหลมกระทิง
ดูเนื้อหาต้นฉบับ
ที่มา : https://www.paiduaykan.com/travel/%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%87
ขอขอบคุณ : https://www.paiduaykan.com/travel/%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%87